ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยได้ใช้ความร้อนมาช่วยในการบำบัดรักษาในเรื่องต่างๆ เช่น การอยู่ไฟหลังคลอดบุตร การอบไอน้ำ แช่น้ำอุ่น หรือแม้กระทั่ง ประเทศญี่ปุ่น ที่นิยมแช่น้ำร้อนออนเซนกัน เนื่องด้วยความร้อน มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์หลายอย่าง ดังนี้
1. การนอนที่นอนหินหยกร้อน ช่วยลดน้ำหนักได้ เพียงนอนที่นอนหินหยกด้วยอุณหภูมิ 40-50 องศา ทุกวัน หลักการจะคล้ายๆ อบไอน้ำ ร่างกายได้รับความร้อน และจะขับเหงื่อ ขับสารพิษในร่างกาย ออกมาในรูปแบบเหงื่อ
เตียงหยกร้อนจะส่งผ่านความ
ร้อนไปทำลายเซลล์ไขมันชั้นนอก โดยเซลล์ไขมันจะสลายตัว ซึ่งร่างกายสามารถกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกมาตามกลไกของธรรมชาติ อย่างไรก็ดี ควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อให้ร่างกายไม่เกิดการขาดน้ำจนเกินไป
2. ช่วยลดความเครียดได้ การนอนที่นอนหินหยกร้อนในอุณหภูมิที่พอดี ไม่ร้อนจนเกินไป หรือ อุณหภูมิ อุ่น จะทำให้นอนหลับสบายขึ้น เลือดลมไหลเวียนได้ดี คลายความตึงเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวันให้ได้นอนหลับสนิท และ นานขึ้น
3. ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ บทความจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า จากงานวิจัยพบว่า คนที่อาบหรือแช่น้ำร้อน หรือน้ำอุ่นเป็นประจำทุกวัน หรือ นอนที่นอนที่มีอุณหภูมิ อุ่น จะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ถึง 28% และลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสองได้ถึง 26% อีกด้วย
4. ช่วยลดอาการปวดหลัง ปวดตามข้อต่างๆ ได้ เมื่อย่างเข้าสู่วัยกลางคน บางคนอาจเกิดมีอาการกล้ามเนื้อบริเวณหลังจะเริ่มตึงและเจ็บ ความร้อนมีคุณสมบัติสำคัญคือช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้บรรเทาความตึงลง นอกจากนี้ ยังช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ไม่ให้อุดตัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง เมื่อระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี กล้ามเนื้อหลังก็จะทำงานได้ดีขึ้นอย่างไรก็ดี เพื่อให้ได้ผลดีต่อร่างกาย ควรนอนที่นอนหินหยกร้อน ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน และดื่มน้ำตามมากๆ อย่างน้อย 8แก้ว ต่อวัน
